วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

Porsche Cayenne S Diesel ตัวชี้วัดของคำว่าประสิทธิภาพ


ปอร์เช่ส่งรุ่นดีเซลใหม่ล่าสุดซึ่งมาพร้อมพละกำลังเครื่องยนต์ที่ทรงพลังมากที่สุดออกมาแล้วนั่นคือ คาเยนน์ เอส ดีเซล (Cayenne S Diesel) ในคาเยนน์รุ่นใหม่นี้จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 4.2 ลิตร biturbo สร้างพละกำลังสูงสุดถึง 382 แรงม้า (281 กิโลวัตต์) และมีกำลังแรงบิดสูงสุดถึง 850 นิวตัน-เมตร
คาเยนน์ เอส ดีเซล คันนี้คือการผสมผสานไว้ซึ่งนิยามของคำว่าประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่คล่องตัวและสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยม อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 5.7 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 252 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่เพียงเท่านี้รถคันนี้ยังมีประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่ประหยัดและมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 8.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 218 กรัมต่อกิโลเมตร) เท่านั้น ฟังก์ชั่นเร่ง/หยุดอัตโนมัติ ยังได้รับการติดตั้งในรถคันนี้และเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่ช่วยให้ประหยัดมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

คาเยนน์ เอส ดีเซล ทั้งประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมตามแบบฉบับความเป็นปอร์เช่ผสมผสานกับความสดใหม่ได้อย่างลงตัวที่สุด ประสิทธิภาพการขับขี่มีความคล่องตัวสูงและเสียงของเครื่องยนต์สามารถสร้างความสุนทรีย์ให้กับผู้ขับขี่ตามรูปแบบเฉพาะของรถสปอร์ตทุกประการ ระบบขับเคลื่อนแบบ PTM active all-wheel drive ได้รับการติดตั้งมากับคาเยนน์ เอส ดีเซลใหม่คันนี้ ซึ่งสร้างความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัวได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมทั้งสร้างเสถียรภาพให้กับรถและสร้างความแม่นยำในการขับขี่ได้อย่างลงตัว มากกว่านั้นยังให้ความเป็นสปอร์ตหรือการขับขี่ที่มีความคล่องตัวสูง อีกทั้งยังสามารถเลือกติดตั้งอุปกรณ์เสริมอย่างระบบการกระจายแรงบิดไปยังแต่ละล้อเพื่อประสิทธิภาพในการควบคุมรถขณะเข้าโค้ง (Porsche Torque Vectoring Plus - PTV Plus) เพื่อการขับขี่ที่คล่องตัวอย่างสมบูรณ์แบบและสร้างความเป็นสปอร์ตให้มากขึ้นได้อีกด้วย 

ด้วยพละกำลังเครื่องยนต์ที่ทรงพลังและเหนือชั้นของคาเยนน์ เอส ดีเซลนี้เองที่ทำให้รถคันนี้สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการใช้ลากจูงอย่างดีเยี่ยม โดยที่ยังคงเต็มไปด้วยพละกำลังเครื่องยนต์อันทรงพลังแม้ขณะที่ต้องใช้กำลังลากจูง โดยสามารถลากจูงได้มากที่สุดถึง 3.5 ตันเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านี้คาเยนน์ใหม่ล่าสุดคันนี้ยังมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมในเรื่องของการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงขณะวิ่งทางไกล ซึ่งหากติดตั้งอุปกรณ์เสริมอย่างเช่น ถังน้ำมัน 100 ลิตรมาด้วยแล้ว รถคันนี้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 1,200 กิโลเมตร โดยไม่ต้องหยุดเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเลย

หากมองจากภายนอกจะพบว่าคาเยนน์ ดีเซลรุ่นท็อปคันนี้ยังคงความเหมือนกับรุ่นคาเยนน์ เอส เพราะเครื่องยนต์มีลักษณะเด่นด้วยเครื่องยนต์ขนาด 8 สูบ ระบบเบรกได้รับการปรับเปลี่ยนขนาดให้เหมาะสมกับพละกำลังเครื่องยนต์ที่ขับออกมา คาลิเปอร์เบรกมีสีเงิน โลโก้คำว่า “diesel” ได้รับการประดับอยู่ที่ปลายปีกด้านหน้าอย่างโดดเด่น ส่วนทางด้านหลังประดับด้วยโลโก้ Cayenne S เพื่อความโดดเด่นด้วยเช่นกัน ซึ่งคาเยนน์ เอส ดีเซล จะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2013

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น