มีการศึกษาใหม่โดยนักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโอเรก้อนสเตจ ซึ่งได้ตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าของเชื้อเพลิงชีวภาพในปัจจุบัน โดยนักวิจัยได้มุ่งเน้นไปที่การให้ความสำคัญกับเชื้อเพลิงชีวภาพที่ใช้อยู่ในปัจจุบันทั่วโลก เช่น เอทานอลจากข้าวโพด, ไปโอดีเซลจากถั่วเหลือง, เอทานอลเซลลูโลสจากพืชที่ปลูกในสหรัฐอเมริกา, ไปโอดีเซลที่ผลิตจากพืชคาโนล่าที่ผลิตในยุโรปและเอทานอลจากอ้อยที่ผลิตในบราซิลและส่งออกไปยังสหรัฐฯหรือยุโรป
ในการลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้มีการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายและประสิทธิภาพกับเชื้อเพลิงชีวภาพและยังได้เสนอทางเลือก 2 ทางคือ การเพิ่มภาษีน้ำมันเพื่อลดปริมาณการใช้และการดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ซึ่งจากการศึกษาพบว่าเชื้อเพลิงชีวภาพที่ได้จากพืชทั้งหมดมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าสองทางเลือกที่กล่าวมาในแง่ของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
ในรายงานยังกล่าวว่าการเพิ่มภาษีน้ำมันและการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน สามารถลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในสหรัฐฯได้กว่า 15% และการขึ้นภาษีน้ำมันเพื่อลดการใช้น้ำมันมีประสิทธิภาพมากกว่าการชักชวนส่งเสริมให้ผู้คนหันมาใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ
การศึกษานี้ไม่ได้รวมถึงผลกระทบที่เพิ่มขึ้นในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงแหล่งน้ำและราคาอาหารทั้งหมดที่อาจจะสูงขึ้นในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น