มีการคาดกันว่าภายในปี 2015 ประเทศบราซิลจะกลายเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก โดยมีรายงานจาก Roland Berger Strategy Consultants ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางด้านยุทธศาสตร์ในประเทศเยอรมนี ได้อ้างว่าภายในปี 2015 บราซิลจะเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสหรัฐอเมริกา
บราซิลจะขึ้นมาเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกแทนที่ญี่ปุ่น และคาดว่าจะมียอดจำหน่ายรถเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าเป็น 6.6 ล้านคันในปี 2020 นอกจากนี้ในรายงานยังกล่าวอีกด้วยว่า จีนและอินเดียซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์จะส่งออกยานยนต์ไปยังบราซิลมากขึ้นและมีสัดส่วนในตลาดอยู่ร้อยละ 10 ภายในปี 2020
ส่วนผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ทั้งโฟล์คสวาเก้น, ฟอร์ดและเฟียต จะยังครอบครองตลาดบราซิลได้ในระยะยาว แต่รถยนต์ราคาถูกจากจีนและอินเดียอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนตลาดอย่างรุนแรง ซึ่งผู้คนจะหันมาซื้อรถราคาถูกแทนมอเตอร์ไซค์กันมากขึ้น
ในขณะเดียวกันจีนได้วางเป้าหมายตลาดบราซิลไว้ด้วยรถราคาประหยัด โดยผู้ผลิตรถจากจีนกำลังมุ่งเป้าขยายตลาดไปยังประเทศบราซิลและกำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มรถราคาประหยัด ซึ่งมียอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในปัจจุบันบราซิลเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่อันดับ 5 ของโลกและเป็นตลาดสำคัญที่ผู้ผลิตรถจากจีนต้องการเข้าไปขยายตลาด แบบเดียวกับผู้ผลิตจากเกาหลีใต้ทั้งเกียและฮุนไดซึ่งทำมาก่อนหน้านี้และกลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ติดอันดับโลกอยู่ในปัจจุบัน
แต่ปัญหาของผู้ผลิตรถจากจีนคือ รถที่จำหน่ายเป็นรถที่ต้องนำเข้าและเมื่อเร็วๆนี้รัฐบาลบราซิลได้เพิ่มอัตราภาษีนำเข้า โดยรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 1 ลิตรหรือน้อยกว่าจะต้องจ่ายภาษีร้อยละ 37 และในจำนวนมากกว่า 2 ใน 3 ของรถใหม่ที่ขายในบราซิลใช้เครื่องยนต์ขนาด 1 ลิตร ส่วนรถที่ใช้ชิ้นส่วนร้อยละ 65 ของชิ้นส่วนที่ทำสัญญาไว้กับกลุ่มการค้าในอเมริกาใต้หรือเม็กซิโกจะได้รับการยกเว้นจากการเพิ่มภาษีและจ่ายภาษีเพียงร้อยละ 7 ซึ่งทำให้รถจากจีนจะต้องมีราคาสูงขึ้น และทำให้แข่งขันในตลาดลำบากขึ้น ในขณะที่คู่แข่งทั้งเจเนอรัลมอเตอร์, เฟียต, ฟอร์ดและโฟล์คสวาเก้น ทั้งหมดล้วนผลิตภายในภูมิภาค ทำให้ไม่ต้องจ่ายภาษีนำเข้า ฉะนั้นจึงทำให้สามารถขายรถในราคาต่ำได้
ผู้ผลิตจากจีนทั้งเฌอรี่, ลี่ฟานและอื่นๆ ต่างประกาศแผนการสร้างโรงงานในบราซิลในปีนี้ โดยเฌอรี่จะลงทุน 26,000 พันล้านหยวนหรือราว 127,000 พันล้านบาท ในการสร้างโรงงานประกอบที่มีกำลังการผลิต 150,000 ถึง 170,000 คันต่อปี
อุตสาหกรรมยานยนต์ในบราซิลมีอัตราการเติบโตที่ดีในปีที่ผ่านมา แม้ว่าอุตสาหกรรมอื่นๆจะไม่ค่อยสดใสนัก และรถราคาประหยัดยังคงเป็นที่ต้องการอย่างมากจากกลุ่มคนที่มีรายได้ไม่สูงมากนักและจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นด้วย
Resources : Roland Berger Strategy Consultants
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น