เครื่องยนต์เบนซินและดีเซลยังสามารถลดค่าไอเสียให้ต่ำลงกว่าในปัจจุบันได้อีก โดยวิศวกรของบ็อชได้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับเครื่องยนต์ที่จะผลิตออกมาในอนาคต
เครื่องยนต์สันดาปภายในจะยังคงมีบทบาทสำคัญสำหรับยานพาหนะต่อไปในอนาคต ตลาดทั่วโลกสำหรับรถใหม่จะเติบโตจากระดับปัจจุบัน 71 ล้านคันเป็น 103 ล้านคันในปี 2020 และในจำนวนนี้จะยังคงใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในอยู่ถึงราว 100 ล้านคัน และเทคโนโลยียานยนต์จะมีความสำคัญเป็นอย่างสูงในการช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
บ็อชจะเน้นไปที่การลดขนาดของตัวเครื่องยนต์ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง โดยการลดความจุกระบอกสูบ, ลดจำนวนลูกสูบและลดแรงเสียดทานให้เหลือน้อยที่สุด เครื่องยนต์ชนิดนี้ยังมีการสูญเสียความร้อนน้อยลง ซึ่งจุดหมายก็คือเพื่อให้เครื่องยนต์ยังมีสมรรถนะเท่าเดิมหรือสูงกว่าเดิม
ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์สามารถรักษาเอาไว้ได้ ตราบเท่าที่สามารถป้อนอากาศเข้าไปโดยตรงได้มากในต่อรอบของการเผาไหม้ เหตุที่ทำได้ก็โดยการอาศัยเทอร์โบชาร์จ ซึ่งจะทำให้เครื่องยนต์มีปริมาณอากาศที่เพียงพอต่อการเผาไหม้ที่สะอาด และในช่วงปลายปีที่ผ่านมาทางบ็อชและมาห์เล่ได้ร่วมลงทุนในการผลิตระบบเทอร์โบชาร์จที่ทันสมัย ซึ่งได้รับออกแบบเป็นพิเศษสำหรับเครื่องยนต์ยุคใหม่ทั้งเบนซินและดีเซล เพื่อใช้กับรถยนต์ส่วนบุคคลและรถในเชิงพาณิชย์ ทางบ็อชคาดว่าการร่วมทุนกันในครั้งนี้จะผลิตเทอร์โบประสิทธิภาพสูงออกมามากกว่า 2 ล้านหน่วยภายในปี 2015
เทคโนโลยีใหม่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเมื่อคิดจากราคาน้ำมันในยุโรปในวันนี้และเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยของรถที่ผลิตในปีที่ผ่านมากับรถในปี 2020 จะสามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงสามปีได้ราว 1,000 ถึง 1,500 ยูโรและถ้าคิดจากการใช้ยานพาหนะตามปกติประจำวันจะประหยัดค่าน้ำมันไปได้ 4,000 ถึง 6,000 ยูโร และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 6 ถึง 11 ตัน
Resources : Bosch
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น