วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2555

มอเตอร์ไซค์ BMW โมเดลปี 2013


บีเอ็มดับเบิลยูได้แนะนำมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่สำหรับปี 2013 ซึ่งขณะนี้พร้อมจำหน่ายบนโชว์รูมทั่วโลก รวมทั้งได้ติดตั้งระบบเบรก ABS มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นอีกด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักการ ‘Safety 360°’ และทำให้บีเอ็มดับเบิลยูกลายเป็นผู้นำในการติดตั้งระบบเบรก ABS มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น โดยในอนาคตราวปี 2016 มีแนวโน้มที่ระบบเบรก ABS จะถูกติดตั้งในรถมอเตอร์ไซค์ที่จดทะเบียนใหม่ทั้งหมดในยุโรป

รุ่น F700GS และ F800GS เป็นสองโมเดลใหม่สำหรับปี 2013 โดยในรุ่น F700GS จะออกมาแทนที่รุ่น F650GS ซึ่งรุ่นนี้ถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้ดีทั้งบนไฮเวย์และทางฝุ่น ในขณะที่รุ่น F800GS จะเน้นให้ใช้งานในเส้นทางแบบออฟโร้ดได้ดีกว่า ทั้งสองรุ่นติดตั้งระบบเบรก ABS แบบ 2 แชนแนลมาให้เป็นมาตรฐาน
นอกเหนือจากระบบ ABS แล้วยังมีออพชั่นของระบบ ASC (automatic stability control) ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบของระบบแทร็คชั่นคอนโทรล เพื่อป้องกันล้อหมุนฟรีและระบบปรับช่วงล่างด้วยอิเลกทรอนิกส์ (ESA II) ให้เลือกปรับตั้งได้ทั้งในแบบ comfort, normal และ sport

ทั้งสองรุ่นใช้เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด มีความจุกระบอกสูบ 798 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ โดยในรุ่น F700GS มีกำลัง 75 แรงม้าและแรงบิด 77 นิวตัน-เมตรและในรุ่น F800GS มีกำลัง 85 แรงม้าและแรงบิด 83 นิวตัน-เมตร ล้อหน้าของรุ่น F700GS ใช้ขนาด 19 นิ้วและมีน้ำหนักตัว 209 กิโลกรัม ส่วนรุ่น F800GS ใช้ล้อหน้าขนาด 21 นิ้วและน้ำหนักตัว 214 กิโลกรัม

รุ่น F800R มีแพ็คเกจให้เลือกทั้งในแบบไดนามิกและทัวริ่ง ส่วนสีของตัวรถใช้สีขาว, น้ำเงินและดำ โดยในแพ็คเกจไดนามิกมาพร้อมกับสปอยเลอร์เครื่องยนต์, ไฟท้ายและไฟเลี้ยวแบบ LED และฝาครอบที่นั่งด้านท้าย สำหรับแพ็คเกจทัวริ่งมีออนบอร์ดคอมพิวเตอร์, ระบบทำความร้อนมือจับแฮนด์, แร็ควางของด้านท้าย, ขาตั้งกลาง

ในส่วนของเครื่องยนต์ยังคงเหมือนเดิมแบบสองสูบเรียง ขนาด 798 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีกำลัง 87 แรงม้าและแรงบิด 86 นิวตัน-เมตร น้ำหนักตัว 177 กก.

รุ่น G650GS มากับสีเหลือง sunset yellow ส่วนเครื่องยนต์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในแบบสูบเดียว DOHC ขนาด 652 ซีซี.จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลัง 48 แรงม้า แรงบิด 60 นิวตัน-เมตรและมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ประหยัดมากเฉลี่ย 32 กม./ลิตร ที่ความเร็วคงที่ 90 กม./ชม.
การส่งกำลังใช้เกียร์ 5 สปีด พร้อมกับเฟรมที่แข็งแรงและช่วงล่างที่ถูกปรับให้เหมาะสมกับเส้นทางแบบออฟโร้ด ในโมเดลใหม่ยังคงเรียบง่ายและราคาไม่แพงรวมทั้งสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 170 กม./ชม. ล้อหน้า/หลังใช้ขนาด 19/17 นิ้ว ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีความจุ 14 ลิตร เพียงพอสำหรับการเดินทางไกล

รุ่น R1200R มาพร้อมกับสีใหม่เช่นกัน ในขณะที่ส่วนอื่นๆยังคงเดิม ทั้งเครื่องยนต์แบบบ็อกเซอร์ ขนาด 1,170 ซีซี. มีกำลัง 110 แรงม้ากับแรงบิด 119 นิวตัน-เมตร ช่วงล่างหน้าแบบ Telelever และด้านหลังแบบ Paralever ส่วนออพชั่นจะมีระบบปรับช่วงล่างด้วยอิเลกทรอนิกส์ (ESA II) และระบบควบคุมเสถียรภาพอัตโนมัติ (ASC)
รุ่น S1000RR ในโมเดลใหม่ปี 2013 ยังไม่มีการปรับใหม่ทางด้านเทคนิค แต่ยังคงประสิทธิภาพสูง ทรงพลังและเร็วและมีสีเทาเมทัลลิกออกมาเป็นตัวเลือกเพิ่มขึ้น

หลายๆคนอาจตั้งความหวังว่าบีเอ็มดับเบิลยูจะมีการปรับรุ่นนี้หลังจากการออกมาของดูคาตี้ Panigale แต่กลับไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย ซึ่งซูเปอร์ไบค์รุ่นนี้อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีและมีความเร็วสูง เครื่องยนต์แบบ 4 สูบมีกำลังเกือบ 200 แรงม้า ใช้ระบบเบรก ABS แบบเดียวกับตัวแข่ง มีระบบ DTC (dynamic traction control) เฟรมอะลูมิเนียมทวินสปาร์แข็งแรงสูงและมีน้ำหนักเบา ช่วงล่างไฮสเปกและปรับตั้งได้เต็มที่ ในชั่วโมงนี้ยังคงได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในกลุ่มเดียวกันและโมเดลปี 2013 บีเอ็มดับเบิลยูมีออพชั่นด้วยท่อไอเสียไททาเนี่ยมแบบเดียวกับโมเดล HP
รุ่น K1300S และ K1300R ทั้งสองรุ่นมีสีใหม่ออกมาให้เลือกและมีระบบเบรก ABS กับล้อแบบสปอร์ตติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน จากแต่เดิมที่จะเป็นออพชั่น ในส่วนของแพ็คเกจไดนามิกสำหรับรุ่น K 1300 R ประกอบด้วยปลอกแฮนด์มีระบบทำความร้อน, ออนบอร์ดทริปคอมพิวเตอร์, ไฟเลี้ยว LED, กระจกบังลมหน้าแบบสปอร์ตและช่วงล่างปรับด้วยอิเลกทรอนิกส์ (ESA II)

ทางด้านเครื่องยนต์ของทั้งสองโมเดลยังคงเป็นแบบ 4 สูบ มีความจุ 1,293 ซีซี. ให้กำลัง 175 แรงม้ากับแรงบิด 140 นิวตัน-เมตร ช่วงล่างหน้า/หลังแบบ Duolever /Paralever
รุ่น K1600GT และ K1600GTL ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในโมเดลใหม่ มีเพียงการเพิ่มสีใหม่ของตัวรถและแผงหน้าปัดดิจิตอลมีการแก้ไขเล็กน้อย

ลักชัวรี่ทัวริ่งไบค์ในรุ่น K1600GT นอกจากจะได้สีใหม่แล้วยังได้เพิ่มไฟหน้าแบบ LED มาให้เป็นออพชั่นและหน้าปัดจอสี TFT ขนาด 5.7 นิ้ว จะมีอออพชั่นเป็นจอแสดงความเร็วดิจิตอล ส่วน K 1600 GTL จะมีสีสันใหม่และออพชั่นจอแสดงความเร็วดิจิตอล เครื่องยนต์ของทั้งสองรุ่นยังคงเป็นแบบ 6 สูบ ขนาด 1,600 ซีซี. มีกำลัง 160 แรงม้าและแรงบิด 175 นิวตัน-เมตร ในรุ่น GT มีน้ำหนัก 319 กิโลกรัมและในรุ่น GTL มีน้ำหนัก 348 กิโลกรัม มาพร้อมกับระบบแทร็คชั่นคอนโทรล ซึ่งสามารถปรับได้ 3 โหมดคือ rain, road และ dynamic






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น