วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557

กองทัพสหรัฐฯพัฒนามอเตอร์ไซค์ขับเคลื่อนสองล้อ

มีรายงานจากสื่อต่างประเทศออกมาว่าทางกองทัพสหรัฐฯกำลังดำเนินการพัฒนามอเตอร์ไซค์แบบไฮบริดขับเคลื่อนสองล้อเพื่อนำเข้าประจำการและใช้ในภารกิจของกองทัพ

โดยเมื่อเร็วๆนี้ทางองค์การ Defense Advanced Research Projects Agency (DARPA) ได้ให้ทุนวิจัยกับ Logos Technologies ในการพัฒนาระบบไฮบริด-ไฟฟ้า ซึ่งสามารถเดินทางด้วยความเงียบในโหมดไฟฟ้าและได้ร่วมทำงานกับทาง BRD Motorcycles ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากซานฟรานซิสโก ในการพัฒนาแพลทฟอร์มมอเตอร์ไซค์ในแบบออฟโร้ด โดยทาง DARPA มีเป้าหมายเพื่อให้กองกำลังรบสามารถใช้งานได้ในพื้นที่ทุรกันดารและมีน้ำหนักเบา

สำหรับองค์การ DARPA ถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1958 มีหน้าที่หลักในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศ โดยโครงการที่จะถูกบรรจุอยู่ในแผนจะเป็นโครงการระยะสั้น ตั้งแต่ 2 ถึง 4 ปี มีงบประมาณโดยประมาณในการวิจัยและพัฒนาปีละ 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ งานวิจัยและพัฒนาของ DARPA มีจุดโดดเด่นที่สำคัญที่ทำให้แตกต่างจากหน่วยงานวิจัยในลักษณะเดียวกันคือ ทาง DARPA จะวิเคราะห์ถึงเทคโนโลยีทางทหารที่จะมาเสริมสร้างศักยภาพและประสิทธิภาพให้กับกองทัพในอนาคต ตัวอย่างของงานวิจัยที่ DARPA ได้ให้การสนับสนุนได้แก่ การให้กำเนิดระบบอินเตอร์เน็ตและอากาศยานไร้นักบินแบบ MQ-1 Predator

มอเตอร์ไซค์ไฮบริดจะมีประโยชน์และมีความสำคัญสำหรับกองทัพในอนาคต โดยสิ่งที่มีความสำคัญสำหรับมอเตอร์ไซค์ไฮบริด คือความเร็วและการลักลอบเข้าไปใกล้ยังเป้าหมายด้วยความเงียบก่อนที่ศัตรูจะทันระวังตัว ซึ่งมอเตอร์ไซค์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันยังไม่ค่อยเหมาะสมมากนักจากเสียงของเครื่องยนต์ที่ดังเกินไป ดังนั้นทาง DARPA จึงคาดหวังว่าระบบไฮบริดในโหมดไฟฟ้าจะทำงานได้เงียบ (มอเตอร์ไซค์ทั่วไปในระยะห่างราว 8 เมตรจะได้ยินระดับเสียงเครื่องยนต์ดังราว 90 เดซิเบลหรือมีเสียงดังกว่าแบบไฮบริดถึงราว 4 เท่า) รวมทั้งในสภาพภูมิประเทศที่มีดินอ่อนนุ่ม เส้นทางที่แคบและสูงชัน อาจเป็นอุปสรรคและเรื่องยากในการเดินทาง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ DARPA ต้องการมอเตอร์ไซค์ขับเคลื่อนสองล้อเพื่อให้สามารถเดินทางไปได้ในหลากหลายภูมิประเทศ

นอกเหนือจากการทำงานปฏบิติการพิเศษแล้ว ก็อาจจะมีประโยชน์สำหรับวัตถุประสงค์อื่นๆ รวมทั้งการสอดแนม, การควบคุมขบวนรถและการรักษาความปลอดภัย

ทาง BRD เคลมประสิทธิภาพของมอเตอร์ไซค์ไฮบริดจะให้กำลังได้ 40 แรงม้า มีน้ำหนักตัวราว 113 กก . ใช้เวลาในการชาร์จไฟราว 4 ชั่วโมงด้วยเครื่องชาร์จมาตรฐานและใช้งาได้เป็นระยะทาง 80 กม. นอกจากนี้ระบบไฮบริดยังสามารถนำมาใช้ผลิตไฟฟ้า สำหรับใช้กับเครื่องมือหรืออุปกรณ์อื่นๆ ในขณะที่อยู่ในสนามรบได้อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น