มีรายงานจากสื่อต่างประเทศออกมาว่าทางกองทัพสหรัฐฯกำลังดำเนินการพัฒนามอเตอร์ไซค์แบบไฮบริดขับเคลื่อนสองล้อเพื่อนำเข้าประจำการและใช้ในภารกิจของกองทัพ
โดยเมื่อเร็วๆนี้ทางองค์การ Defense Advanced Research
Projects Agency (DARPA) ได้ให้ทุนวิจัยกับ Logos Technologies ในการพัฒนาระบบไฮบริด-ไฟฟ้า
ซึ่งสามารถเดินทางด้วยความเงียบในโหมดไฟฟ้าและได้ร่วมทำงานกับทาง BRD
Motorcycles ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากซานฟรานซิสโก ในการพัฒนาแพลทฟอร์มมอเตอร์ไซค์ในแบบออฟโร้ด
โดยทาง DARPA มีเป้าหมายเพื่อให้กองกำลังรบสามารถใช้งานได้ในพื้นที่ทุรกันดารและมีน้ำหนักเบา
สำหรับองค์การ DARPA ถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1958 มีหน้าที่หลักในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศ
โดยโครงการที่จะถูกบรรจุอยู่ในแผนจะเป็นโครงการระยะสั้น ตั้งแต่ 2 ถึง 4 ปี
มีงบประมาณโดยประมาณในการวิจัยและพัฒนาปีละ 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
งานวิจัยและพัฒนาของ DARPA มีจุดโดดเด่นที่สำคัญที่ทำให้แตกต่างจากหน่วยงานวิจัยในลักษณะเดียวกันคือ
ทาง DARPA จะวิเคราะห์ถึงเทคโนโลยีทางทหารที่จะมาเสริมสร้างศักยภาพและประสิทธิภาพให้กับกองทัพในอนาคต
ตัวอย่างของงานวิจัยที่ DARPA ได้ให้การสนับสนุนได้แก่
การให้กำเนิดระบบอินเตอร์เน็ตและอากาศยานไร้นักบินแบบ MQ-1 Predator
มอเตอร์ไซค์ไฮบริดจะมีประโยชน์และมีความสำคัญสำหรับกองทัพในอนาคต โดยสิ่งที่มีความสำคัญสำหรับมอเตอร์ไซค์ไฮบริด
คือความเร็วและการลักลอบเข้าไปใกล้ยังเป้าหมายด้วยความเงียบก่อนที่ศัตรูจะทันระวังตัว
ซึ่งมอเตอร์ไซค์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันยังไม่ค่อยเหมาะสมมากนักจากเสียงของเครื่องยนต์ที่ดังเกินไป
ดังนั้นทาง DARPA จึงคาดหวังว่าระบบไฮบริดในโหมดไฟฟ้าจะทำงานได้เงียบ (มอเตอร์ไซค์ทั่วไปในระยะห่างราว
8 เมตรจะได้ยินระดับเสียงเครื่องยนต์ดังราว 90 เดซิเบลหรือมีเสียงดังกว่าแบบไฮบริดถึงราว
4 เท่า) รวมทั้งในสภาพภูมิประเทศที่มีดินอ่อนนุ่ม
เส้นทางที่แคบและสูงชัน อาจเป็นอุปสรรคและเรื่องยากในการเดินทาง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้
DARPA ต้องการมอเตอร์ไซค์ขับเคลื่อนสองล้อเพื่อให้สามารถเดินทางไปได้ในหลากหลายภูมิประเทศ
นอกเหนือจากการทำงานปฏบิติการพิเศษแล้ว
ก็อาจจะมีประโยชน์สำหรับวัตถุประสงค์อื่นๆ รวมทั้งการสอดแนม, การควบคุมขบวนรถและการรักษาความปลอดภัย
ทาง BRD เคลมประสิทธิภาพของมอเตอร์ไซค์ไฮบริดจะให้กำลังได้ 40 แรงม้า
มีน้ำหนักตัวราว 113 กก . ใช้เวลาในการชาร์จไฟราว 4
ชั่วโมงด้วยเครื่องชาร์จมาตรฐานและใช้งาได้เป็นระยะทาง 80 กม.
นอกจากนี้ระบบไฮบริดยังสามารถนำมาใช้ผลิตไฟฟ้า
สำหรับใช้กับเครื่องมือหรืออุปกรณ์อื่นๆ ในขณะที่อยู่ในสนามรบได้อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น