วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Porsche เริ่มทดสอบรถต้นแบบ 918 Spyder

ปอร์เช่ได้เริ่มการทดสอบสุดยอดรถสปอร์ตสำหรับอนาคตรุ่น 918 Spyder ในรูปแบบรถต้นแบบบนถนนแล้ว ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จในการพัฒนารถยนต์ที่เหนือชั้นคันนี้ไปอีกหนึ่งขั้น ซึ่ง 918 Spyder จะทำการผลิตอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2013 เพื่อให้ลูกค้าที่สั่งจองมาอันดับต้นๆ ได้รับรถก่อนสิ้นปี 2013


Wolfgang Hatz สมาชิกบอร์ดบริหารและบอร์ดบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนาของปอร์เช่กล่าวว่า “เราพัฒนา 918 Spyder ให้เต็มไปด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ประสิทธิภาพที่เหนือชั้น และการขับขี่ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานเร้าใจ”

รถต้นแบบคันนี้ทำให้ระลึกถึงรถแข่งรุ่น 917 ที่เป็นตำนานมาอย่างยาวนานของปอร์เช่ได้เป็นอย่างดี และได้รับการพัฒนาให้กลายมาเป็นรุ่น 918 Spyder อย่างเต็มรูปแบบ รถคันนี้ได้รับการพัฒนาอย่างพิถีพิถันโดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบขับเคลื่อนและเครื่องยนต์ โดยจะเป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ติดตั้งแยกกันที่เพลาหน้าและเพลาหลัง ทุกชิ้นส่วนของรถมีความสำคัญทั้งหมด ดังนั้นทีมงานของปอร์เช่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้กับสปอร์ตรุ่นนี้และนี่คือกลยุทธ์หลักการทำงานและการพัฒนาของปอร์เช่ เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญในการทำให้รถสามารถสร้างความสนุกสนานในการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังทำให้รถมีประสิทธิภาพอย่างเต็มพิกัด และมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำอีกด้วย
รุ่น 918 Spyder คันนี้ถือได้ว่าเป็นรถสปอร์ตแบบเต็มพิกัด เครื่องยนต์ได้รับการออกแบบให้มีมีประสิทธิภาพสูง รวมเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ทำให้มีพละกำลังสูงสุดถึง 770 แรงม้า แต่มีอัตราสิ้นเปลืองต่ำเพียง 3 ลิตรต่อ 100 กม. เท่านั้น ไม่เพียงเท่านี้ปอร์เช่ยังได้เสริมเทคโนโลยีชั้นนำและล้ำสมัยเข้าไปเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการนำวัสดุ carbon fibre reinforced plastic (CFRP) เข้ามาใช้ในการทำตัวรถ การพัฒนารถให้เต็มไปด้วยประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ หรือระบบท่อไอเสียแบบ “top pipes” เป็นต้น โดยรวมแล้ว 918 Spyder คือตัวแทนผลผลิตจากหลักการประสิทธิภาพการทำงานอย่างอัจฉริยะของปอร์เช่หรือ Porsche Intelligent Performance สำหรับอนาคตนั่นเอง
ข้อมูลด้านเทคนิค Porsche 918 Spyder

ตัวรถ: 2 ที่นั่งแบบสไปเดอร์; ชิ้นส่วนของตัวรถทำจาก carbon fibre reinforced plastics (CFRP)
monocoque; หลังคา Targa แบบ 2 ชิ้น; ระบบการป้องกันแบบ fixed roll-over

เครื่องยนต์: Parallel full hybrid; ขนาด 4.6 ลิตร V8 วางกลาง การหล่อลื่นแบบ dry-sump; โมดูลไฮบริดมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและ decoupler ติดตั้งบนเพลาหน้า; ระบบหล่อเย็น 4 วงจรสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้า, ระบบการจัดการความร้อน

กำลังเครื่องยนต์:
> 570 แรงม้า (เครื่องยนต์ V8)
~ 90 กิโลวัตต์ (โมดูลไฮบริดบนเพลาหลัง)
~ 80 กิโลวัตต์ (มอเตอร์ไฟฟ้าบนเพลาหน้า)
> 770 แรงม้า (รวมทั้ง 2 ต้นกำลัง)

ระบบกันสะเทือน: ด้านหน้าแบบปีกนกคู่; ระบบ electro-pneumatic lift system บนเพลาหน้า; ระบบพวงมาลัย Electro-mechanical; เพลาหลังแบบ multi-link rear axle พร้อมกับเพาเวอร์ไฟฟ้าสำหรับล้อหลังแต่ละล้อ

ระบบเบรก: hybrid brake system ประสิทธิภาพสูงพร้อมกับ adaptive recuperation; จานเบรกแบบเซรามิก (PCCB)

อุปกรณ์จ่ายพลังงาน: แบตเตอรี่แบบลิเธี่ยมไอออนมีความจุ 6.8 kWh (BOL nominal), กำลังสูงสุด 202 กิโลวัตต์และระบบชาร์ตไฟแบบ plug-in

สมรรถนะ: ความเร็วสูงสุด > 325 กม./ชม.
ขับเคลื่อนโดยไฟฟ้าอย่างเดียว> 150 กม./ชม.
อัตราเร่ง: 0 – 100 กม./ชม. < 3.0 วินาที

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง (NEDC): โดยรวม ~ 3.0 ลิตร/100 กม. (33 กม./ลิตร)
อัตราการปล่อย CO2: โดยรวม ~ 70 กรัม/กม.
ระยะทางการใช้งาน (ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว)> 25 กม.
Resources : Porsche

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น